อื่นๆ
หลังจากที่โลกได้ค้นพบเว็บไซต์โซเชี่ยลเน็ตเวิร์คที่ชื่อ
"Facebook" วิถีชีวิตของมนุษย์ก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
จากข้อมูลในเว็บไซต์
MBAonline.com ระบุว่าในแต่ละวัน
มีผู้คนทั่วโลกใช้เวลาอยู่กับ Facebook นานถึง 4.7 พันล้านนาที โดยมีการ upload ภาพกันมากกว่า 250
ล้านภาพ ซึ่งถ้าทุกภาพถูกพิมพ์ออกมาจะมีความยาวประมาณ หอไอเฟล 80
หอเรียงต่อกัน!
ก่อนหน้าที่จะไปถึงขั้นตอนการเล่น
Facebook ให้สร้างสรรค์ แบบไม่ทุกข์
ลองมาทบทวนตัวเองกันก่อนว่า
คุณถูกเจ้าพ่อโซเชี่ยลเน็ตเวิร์คเจ้านี้บุกรุกเข้ามาในหัวใจและหัวสมองมากมายขนาดไหน
โดยดูว่า 5 สัญญาณเตือน(ภัย)ต่อไปนี้เกิดกับคุณแล้วหรือไม่
1. เวลาพักผ่อนของคุณเริ่มน้อยลง หากคุณต้องอดตาหลับขับตานอนเล่น Facebook จนดึกจนดื่น
ทำให้รู้สึกเหนื่อยล้าในวันถัดไป ไม่มีสมาธิทำงาน
นั่นหมายถึงสัญญาณเตือนภัยได้เริ่มขึ้นแล้ว
2. คุณครองแชมป์เกมต่างๆ
ใน Facebook เกือบทุกเกม แน่นอนว่าจะมีข้อความขอความช่วยเหลือเรื่อง
Item ต่างๆ จนรก Wall อยู่เป็นประจำ
ทำให้หลายคนตัดคุณออกจากลิสต์เพื่อนด้วยเหตุนี้มาแล้ว แต่คุณก็ยังไม่เข็ด
3. คุณใช้เวลาเล่น
Facebook ไม่ต่ำกว่า 1 ชั่วโมงทุกวัน ถ้าคุณใช้เวลาอยู่ที่หน้านี้มากขึ้นเรื่อยๆ รวมทั้งมีใจว้าวุ่นอยากพิมพ์ Status
หรืออ่านข้อความทุกครั้งที่มีโอกาส อาการของคุณเริ่มน่าเป็นห่วงแล้วละ
4. สังคมเพื่อนใน
Facebook มีอิทธิพลกับชีวิตคุณมากขึ้น ลองถามตัวเองดูว่า คุณเริ่มสนิทกับเพื่อนใน
โลกออนไลน์มากกว่าเพื่อนที่ทำงานหรือยัง ถ้าคำตอบคือ "ใช่"
สัญญาณเริ่มชัดเจนมากขึ้นอีกขั้น
5. คุณยอมหมดเงินซื้อ
iPhone, Blackberry และสารพัน Tablet ทั้งหมดก็เพื่อออนไลน์ Facebook ได้ทุกที่ทุกเวลา...ก็เท่านั้นเอง!
หาก 5 ข้อที่ว่ามานี้ตรงกับตัวคุณ 1-2 ข้อ
คุณเริ่มมีอาการเสพติดในระดับที่พึงระวังได้แล้ว แต่ถ้าคุณอยู่ในข่ายนี้ตั้งแต่ 3
ข้อขึ้นไป นั่นหมายความว่าอาการของคุณอยู่ในขั้นรุนแรง
ต้องรีบหาทางเยียวยาโดยด่วน แต่ไม่ว่าอาการติดของคุณจะอยู่ในระดับใด
ก็สามารถควบคุมได้ หากได้รับการป้องกันและรักษาแบบตรงจุด
การดำเนินชีวิตที่ปราศจากซึ่งสติและสัมปชัญญะย่อมนำไปสู่การใช้ชีวิตที่ประมาท
และนำผลเสียมาสู่ตัวเองทั้งในระยะสั้นและระยะยาวได้อย่างง่ายดาย ด้วยเหตุนี้
การรู้จักตั้งสติ คิดพิจารณาให้เท่าทันไปกับทุกอิริยาบถ และทุกสิ่งที่กระทำ
จึงเป็นข้อควรจำและควรทำอย่างยิ่ง
• เล่นให้ถูกที่
ถูกเวลา ปัจจุบันมีหลายบริษัทที่ใช้วิธีบล็อกไม่ให้พนักงานเล่น
Facebook เพื่อป้องกันไม่ให้เสียเวลาไปกับโซเชี่ยลเน็ตเวิร์คจนเสียงานเสียการ
มีกรณีตัวอย่างมากมายของคนชอบคลิกที่ถูกไล่ออกจากงาน
เพราะเข้าเว็บไซต์บ่อยกว่าทำงาน หรือไปโพสต์แสดงความคิดเห็นลบๆ ต่อบริษัทในเฟซบุ๊คแล้วโดนจับได้
ฯลฯ ดังนั้นควรเลือกเล่นให้ถูกที่ ถูกเวลา และถูกทาง
การพิจารณาข่าวสารหรือข้อมูลต่างๆให้ครบทั้ง 10 ประการนั้น
อาจดูเหมือนยุ่งยาก แต่รับรองว่าทำแล้วจะเกิดผลดีกับตัวคุณแน่นอน
เพราะเพียงทำตามข้อแรก "อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการฟังตามๆ กันมา"
ก็สามารถการป้องกันการตื่นตูม หรือใจเร็วด่วนแชร์ข้อมูลได้เห็นๆ แล้ว
หนึ่งในปัญหาที่เกิดขึ้นในสังคมยุคปัจจุบันคือ
มีคนจำนวนไม่น้อยที่จมอยู่กับ Facebook และอินเตอร์เน็ต
จนประสบปัญหาในการแยกแยะเรื่องที่ดีกับเรื่องที่ไม่ดี
ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลที่อัพเดตอยู่ตลอดเวลา หรือเพื่อนที่ขอแอดเพิ่มขึ้นทุกวัน
บางครั้งข้อความที่มีผู้โพสต์เข้ามา เป็นเพียงความคิดเห็นที่แตกต่าง
ไม่ใช่เรื่องที่จะต้องเก็บมาเครียดเลยสักนิด ดังนั้น
เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาดังกล่าว
เราจึงขอนำเสนอวิธีการคิดแยกแยะแบบพุทธที่คุณสามารถนำไปใช้ได้ง่ายๆ นั่นคือ...
"วิธีคิดแบบวิภัชชวาท" หรือ การคิดแบบแยกประเด็นปัญหา ไม่มองปัญหาด้านเดียว ซึ่งมีประโยชน์มากเมื่อต้องตัดสินใจ เพราะเป็นการมองปัญหาอย่างรอบด้าน แล้วจึงแยกแยะประเด็นทีละประเด็น จากนั้นจึงค่อยๆวิเคราะห์แต่ละประเด็นอย่างละเอียดรอบคอบ พร้อมทั้งใช้สติสัมปชัญญะในการเลือกรับแต่สิ่งดีๆ เข้ามา ดังที่ท่านพุทธทาสเคยกล่าวไว้ว่า "การเพิ่มพูนความรู้ หรือปัญญาลึกซึ้งมันก็มาจากโยนิโสมนสิการ ไม่ว่าเรื่องบ้าน เรื่องโลก เรื่องธรรมะ การรับเข้ามาด้วยวิธีใดก็ตาม ได้ฟังจากผู้อื่น อ่านจากหนังสือหรือจากอะไรก็ตาม ที่เรียกว่านอกตัวเรามา พอถึงแล้วก็โยนิโสมนสิการว่าให้เป็นความรู้ เป็นสมบัติ พอจะลงมือทำอะไรก็โยนิโสมนสิการในสิ่งที่จะทำให้ดีที่สุด มันก็ผิดพลาดน้อยที่สุด"
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น